NOW PLAYING

NEXT SONG

บุพเพสันนิวาส

Feb 08 17:36:52, 2018 / ดู 3,019 ครั้ง

 
“อำนาจเหนือดวงจิตเป็นดังบุพเพสันนิวาส  ที่นำพาดวงใจสองดวงให้มาบรรจบกัน”
 
ดุจดั่งความรักของ เกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวร่างอ้วนวัย 25 ปี ที่มีหน้าตาสุดแสนธรรมดา ทว่าเธอเป็นคนมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี  และมีความรู้ด้านโบราณคดีและภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เธอจึงเป็นที่รักของคนใกล้ชิด  แต่ผู้ที่เกศสุรางค์อยากได้รับความรักจากเขามากที่สุดก็คือ เรืองฤทธิ์  เพื่อนสนิทที่คบกันมานานหลายปี แต่เพราะคิดว่าเรืองฤทธิ์คงไม่สนใจคนหน้าตาธรรมดาๆ แถมยังอ้วนจนหน้าเกลียด  เกศสุรางค์จึงต้องเก็บงำความรักที่มีต่อเขาเรื่อยมา เพื่อรอคอยวันที่เธอจะกล้าเผยความในใจกับเขา โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาไม่ถึง
 
เพราะวันหนึ่งขณะที่เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์เดินทางกลับจากไปทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  รถตู้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ส่งผลให้เกศสุรางค์เสียชีวิตคาที่ !
 
ขณะเดียวกัน ณ อีกช่วงกาลหนึ่งย้อนเวลาไป 333 ปี  ในพ.ศ. 2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อ แม่หญิงการะเกด สาวสวยแต่จิตใจร้ายกาจ สั่งให้ ผิน กับ แย้ม สองบ่าวผู้ซื่อสัตย์ไปล่มเรือของ แม่หญิงจันทร์วาด เหตุเพราะไม่พอใจที่เห็นจันทร์วาดชม้ายชายตาให้  หมื่นสุนทรเทวา หรือ พ่อเดช คู่หมั้นของการะเกด  แล้วแผนร้ายครั้งนี้ก็ทำให้บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาดจมน้ำตายไปหนึ่งคน  แต่แม่หญิงจันทร์วาดรอดชีวิต
 
เรื่องนี้ร้อนถึงหมื่นสุนทรเทวา เขามั่นใจว่างานนี้เป็นฝีมือของแม่หญิงใจคด ปากจัด เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย ขี้อิจฉา จนผู้คนเอือมระอาไปทั่วอยุธยาอย่างการะเกด เพราะในคืนเกิดเหตุเขาเห็นการะเกดเดินอยู่แถวท่าน้ำและถึงเขาจะเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเธอ แต่เขาก็ไม่เคยรักเธอเลย ส่วนเรื่องหมั้นหมายเป็นเพียงความต้องการของผู้ใหญ่ เพราะ ออกญาโหราธิบดี บิดาของหมื่นสุนทรเทวาได้เคยขอการะเกด  ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทเอาเมื่อครั้งยังเด็ก พอพ่อแม่ของการะเกดเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีกลาย ด้วยความสงสาร ออกญาโหราธิบดีจึงพาการะเกดมาอยู่ที่เรือนด้วย แม้คุณหญิงจำปา ภรรยาจะไม่เห็นด้วย แต่ก็คัดค้านสามีไม่ได้ และออกญาโหราธิบดีก็ไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของการะเกด หมื่นสุนทรเทวาจึงต้องหาทางพิสูจน์ด้วยการร่าย “มนต์กฤษณะกาลี” ซึ่งเป็นมนต์ศักดิ์สิทธิ์โบราณ สาปแช่งผู้ที่คิดร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มีอันเป็นไป
 
แล้วก็เป็นไปตามคาด  มนต์กฤษณะกาลีทำให้การะเกดทุรนทุรายจนสิ้นใจตาย  โดยมีผินกับแย้มเท่านั้นที่เฝ้าร่างไร้ลมหายใจของการะเกดอยู่ทั้งคืน  เพราะไม่กล้าไปบอกใครว่านายของตนตายแล้วด้วยฤทธิ์ของมนต์กฤษณะกาลี  เพราะนั่นจะทำให้ทุกคนรู้ว่านายของตนเป็นผู้วางแผนทำร้ายแม่หญิงจันทร์วาดจริงๆ 
 
ขณะที่หมื่นสุนทรเทวายังร่ายมนต์กฤษณะกาลีไม่หยุด  วิญญาณของการะเกดได้ไปพบกับวิญญาณของเกศสุรางค์  การะเกดสำนึกในการกระทำเลวร้ายของตัวเอง  และเหมือนเธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเกศสุรางค์  เธอจึงอ้อนวอนขอให้เกศสุรางค์ทำดี  แก้ไขความผิดที่เธอเคยทำเอาไว้แทนด้วย  ก่อนที่วิญญาณของการะเกดจะเลือนหายไป  ส่วนวิญญาณของเกศสุรางค์ก็ได้ยินเสียงร่ายมนต์กฤษณะกาลี  จึงเดินไปทางเสียงก่อนจะถูกแสงสีขาวดูดหายไป
 
เมื่อเกศสุรางค์ลืมขึ้นมาอีกครั้ง  เกศสุรางค์ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด  เช่นเดียวกับที่ผินและแย้มก็ตกใจที่นายของตนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง  เสียงร้องเอ็ดตะโรของสามสาว  เรียกให้ทุกคนในเรือนไทยแห่กันเข้ามาดู  รวมทั้งหมื่นสุนทรเทวาด้วย  ทุกคนมองเกศสุรางค์อย่างประณามหยามเหยียดว่าเป็นตัวชั่วร้าย  เกศสุรางค์พยายามบอกกับทุกคนว่าเธอไม่ใช่แม่หญิงการะเกด  แต่เธอมาจากยุครัตนโกสินทร์  ทว่าไม่มีใครเชื่อ  และแม้เธอจะหลุดพ้นข้อกล่าวหาว่าวางแผนล่มเรือแม่จริงจันทร์วาดเพราะเธอไม่ตายก็ตาม  แต่ทุกคนก็คิดว่าการะเกดโดนอำนาจของมนต์กฤษณะกาลีเข้า  เลยกลายเป็นแม่หญิงจิตวิปลาสไปเสียแล้ว
 
และถึงเกศสุรางค์จะได้มีโอกาสมาอยู่ในร่างของคนสวยตามความฝัน  แต่เธออยากกลับบ้านไปหา  สิปาง มารดา  และ คุณนวล ยายของเธอมากกว่า  เกศสุรางค์พยายามคิดหาทางกลับไปสู่โลกของตัวเองให้ได้  แต่เธอไม่รู้จะทำยังไง  เกศสุรางค์จึงไปหาหมื่นสุนทรเทวาเพราะคิดว่าเขาอาจจะช่วยเธอได้บ้าง  ทว่าหมื่นสุนทรเทวากลับไม่ยอมพูดกับเธอดีๆ  ซ้ำยังมีท่าทางรังเกียจราวกับว่าเธอเป็นกิ้งกือไส้เดือน  ทั้งๆที่แม่หญิงการะเกดมีรูปร่างหน้าตาสวยงามราวภาพวาดก็ตาม  เกศสุรางค์อยากรู้ว่าทำไมหมื่นสุนทรเทวาถึงเกลียดคู่หมั้นของตัวเองนักหนา  จึงไปตะล่อมถามจากผินและแย้ม  โดยอ้างว่ามนต์กฤษณะกาลีทำให้เธอมึนๆจนจำอะไรไม่ได้  ผินกับแย้มเล่าถึงอดีตที่เธอนิสัยเลวร้ายอย่างไร  แต่สิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั่นคือ  ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันแม่หญิงการะเกดวางแผนร้ายล่มเรือแม่หญิงจันทร์วาดจนมีคนตาย !
 
เกศสุรางค์นึกถึงสิ่งที่วิญญาณของแม่หญิงการะเกดบอกว่าขอให้เธอช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดแทน  เกศสุรางค์ก็เลยคิดว่าถ้าเธอสามารถทำให้ทุกคนรักและให้อภัยการะเกดได้  เธออาจจะได้กลับบ้าน  นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกศสุรางค์จึงทำใจยอมรับที่จะใช้ชีวิตอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด 
 
แต่การะเกดคือเกศสุรางค์  สาวร่างอ้วนที่จิตใจดีมีเมตตา  เฉลียวฉลาด  มีอารมณ์ขัน  รักความยุติธรรม  ไม่แบ่งแยกชนชั้น  คนทั้งบ้านจึงประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงเหมือนเป็นคนละคนของแม่หญิงการะเกด  จากวาจาผรุสวาทเป็นเนืองนิตย์กลายเป็นวาจาอ่อนหวานไม่ถือตัว  ถึงกับเรียกบ่าวสองคนว่า “พี่” ตามวิถีนับญาติของคนไทยสมัยปัจจุบัน  ทำให้คุณหญิงจำปาขัดเคืองใจยิ่งนัก  นอกจากนั้นพฤติกรรมอื่นๆของแม่หญิงการะเกดที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง  อาทิเช่น  แจกเงินบ่าว  ซื้อข้าวของเครื่องใช้แจกคนในเรือน  คิดทำเครื่องกรองน้ำแทนการใช้สารส้มแกว่งแบบโบราณ  เย็บปักถักร้อยเก่ง  ร้อยมาลัยเป็น  ทำกับข้าวได้  และสุดท้ายคือขอไปทำบุญที่วัด  ซึ่งร้อยวันพันปีการะเกดตัวจริงไม่เคยกระทำ
 
คุณหญิงจำปาปักใจว่าผีเข้าสิงการะเกด  หมื่นสุนทรเทวาถึงกับพูดจาขู่เข็ญเกศสุรางค์ต่างๆนานาให้รับสารภาพ  แม้ว่าในใจของตนจะเผลอไผลไปกับความน่ารักและความดีที่ไม่เคยเห็นในตัวการะเกด  แต่ก็พยายามค้นหาความจริงที่เป็นคำถามรบกวนจิตใจตลอดเวลา  เกศสุรางค์ปฏิเสธเสียงแข็ง  ยืนยันว่าตนคือการะเกด  ที่ดูเหมือนวิปลาสไปเพราะฤทธิ์ของมนต์กฤษณะกาลีเท่านั้น  ไม่ช้าตนจะเป็นการะเกดคนเดิม
 
ต่อจากนั้นเกศสุรางค์พยายามทำตัวกลมกลืนกับวิถีชีวิตอยุธยาให้มากขึ้น  เพื่อให้หมื่นสุนทรเทวาเลิกสงสัยเสียที  แต่สาวรัตนโกสินทร์ในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องจำเป็นมาเป็นสาวอยุธยาในศตวรรษที่ 17 ต้องพบกับความยุ่งยากนานับประการในการดำเนินชีวิตประจำวัน  ทั้งการแต่งตัว  การเดินลุกนั่ง  การกินการอยู่  การอาบน้ำขับถ่าย  ตลอดจนภาษาพูดที่แตกต่างแม้เป็นภาษาไทยเหมือนกัน
 
บรรยากาศของเรือนออกญาโหราธิบดีจึงดำเนินต่อไป  โดยทั้งสองฝ่ายค่อยๆปรับตัวปรับใจกับความแปลกใหม่ที่เผชิญ
 
สิ่งที่เกศสุรางค์พอใจอย่างยิ่งคือ  การได้เห็นอยุธยาด้วยตาของเธอเอง  มิใช่จากบันทึกของผู้คนทั้งไทยและชาวต่างชาติ  ออกญาโหราธิบดีให้หมื่นสุนทรเทวาพาการะเกดไปเที่ยวตลาดหรือ “ป่า” ที่ชาวอยุธยาเรียก  ภูมิทัศน์ของอยุธยาที่เธอเคยจินตนาการจากหนังสือหรือจากคำสอนของอาจารย์ปรากฏให้เห็นจะๆตรงหน้า  ไม่ว่าจะเป็นป้อมเพชรอันเลื่องชื่อ  วัดพระศรีสรรเพชร์  วัดมหาธาตุ  วัดราชบูรณะ  และวัดไชยวัฒนารามที่เธอเปรียบเทียบวัดไชยตรงหน้ากับวัดไชยที่รัฐบาลไทยบูรณะจนสมบูรณ์ในปัจจุบัน  เธอได้นั่งเรือวนรอบเกาะอยุธยา  ได้เห็นวังหลวงที่งดงามอร่ามเรืองด้วยทองคำทุกหนทุกแห่ง  ได้เห็นแล้วว่าอยุธยานั้นเป็นราชธานีที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด  ด้วยการค้าขายกับชาวต่างประเทศที่พากันเข้ามาเสริมสร้างความมั่งคั่งสมบูรณ์ให้ดินแดนนี้
 
นับวันเกศสุรางค์ในร่างของแม่หญิงการะเกด  ก็เป็นความเคยชินของหมื่นสุนทรเทวาที่จะพูดคุยด้วย  ที่จะพาไปเที่ยวที่ต่างๆในอยุธยา  ที่จะตอบคำถามมากมายหลายเรื่องที่เกศสุรางค์สรรหาขึ้นมาถาม  ความอยากรู้อยากเห็นของเกศสุรางค์ส่งผลต่อความกระตือรือล้นของหมื่นสุนทรเทวาที่จะตอบและอธิบาย  คำพูดเฉลียวฉลาดฉะฉาน  ไม่มีทีท่าเอียงอาย  หรือทอดสะพานอย่างที่เคยเป็น  แววตาซื่อตรงที่จ้องจับและคอยฟังคำตอบจากเขา  หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้ตัวว่าความเกลียดชังแต่ก่อนหายไปไหนหมด  ความรู้สึกที่มาแทนที่คือความสนใจใยดี  อาทรห่วงหา  และร้อนรุ่มยามเธอมีใครอื่นมาสนใจใกล้ชิด  ใครคนนั้นไม่ใช่คนเดียว  ความหงุดหงิดจึงเป็นทวีคูณ  คนแรก หมื่นเรืองราชภักดี เพื่อนสนิท  ที่ดูจะสนใจแม่การะเกดเป็นพิเศษ  และแม่การะเกดก็ดูจะมีไมตรีตอบ  แต่หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้สาเหตุว่าเพราะหมื่นเรืองราชภักดีนั้นหน้าตาเหมือนเรืองฤทธิ์  เพื่อนชายที่เกศสุรางค์หลงรักอยู่
 
นอกจากความตื่นตาตื่นใจกับบ้านเมืองและผู้คนในอยุธยา  เกศสุรางค์ยังพบว่าตนเองตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบบุคคลที่เธอรู้จักในประวัติศาสตร์หลายคน  อาทิเช่น  เจ้าพระยาโหราธิบดี  ศรีปราชญ์  เจ้าพระยาโกษาเหล็ก  เจ้าพระยาโกษาปาน  พระเพทราชา  หลวงสรศักดิ์  หลวงศรียศ  นายพลเดส์ฟาร์ช  สังฆราชปัลลู  เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์  และท้าวทองกีบม้า  บางคนที่เธอรู้ชะตากรรมของเขาเหล่านั้นว่าจะสิ้นชีวิตก่อนเวลาอันควร  แม้จะพยายามส่งสัญญาณเตือนด้วยความหวังว่าอาจจะช่วยไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น  แต่เธอก็ต้องตระหนักว่า  กงล้อประวัติศาสตร์ไม่สามารถหมุนกลับได้
 
อีกคนในประวัติศาสตร์ที่เกศสุรางค์ใกล้ชิดสนิทสนม  ได้รับรู้รายละเอียดความเป็นไปในชีวิตคือ ท้าวทองกีบม้า หรือ แม่มะลิ  หญิงสาวลูกครึ่งแขก-ญี่ปุ่น  ที่พ่อชาวเบงกอลชื่อ ฟานิก เป็นพ่อค้าขายผ้าในตลาด  ทั้งสองรู้จักกันเพราะฟานิกถูก หลวงสุรสาคร ข้าราชการชาวกรีกและฝรั่งคนสนิทข่มขู่รังแก  เกศสุรางค์เห็นจึงเข้าไปช่วยโต้เถียง  เพราะเห็นว่าฟานิกไม่ผิด  แค่ผู้หญิงอยุธยาเถียงกับฝรั่งก็เป็นเรื่องที่ผู้คนฮือฮาตกใจลือกันไปทั่วแล้ว  แต่ยังโต้เถียงกันเป็นภาษาฝรั่งเศส  ชื่อของแม่หญิงการะเกดเป็นที่โจษขานกันทั่ว  นับว่าดังเพียงชั่วข้ามคืน  ต่อจากนั้นเกศสุรางค์จึงกลายเป็นมิตรสนิทกับแม่มะลิ  ไปมาหาสู่พูดคุยกันเป็นประจำ
 
เกศสุรางค์พบว่าหมื่นสุนทรเทวาเนื้อหอมไม่ใช่ย่อย  คนหนึ่งคือแม่หญิงจันทร์วาด  ที่เกศสุรางค์ยกให้เป็น “กิ๊ก” ของคุณพี่หมื่น  เนื่องจากแม่หญิงจันทร์วาดรู้ว่าหมื่นสุนทรเทวานั้นเป็นคู่หมายของการะเกด  แต่ยังมีทีท่าทอดสะพานอยู่เนืองๆ  และตัวคุณพี่หมื่นก็เหมือนมีไมตรีตอบในบางครั้งบางคราวด้วย  เป็นเหตุให้เกศสุรางค์พูดจาล้อเลียนอยู่เสมอ  หมื่นสุนทรเทวาขุ่นเคืองใจทุกครั้งเพราะเขาไม่มีใจชอบแม่หญิงจันทร์วาดเลยแม้แต่น้อย  ทำให้แม่หญิงผู้นั้นทวีความชังการะเกดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เพราะสังเกตเห็นว่าหมื่นสุนทรเทวามีสายตาผิดปกติเมื่อมองการะเกด  จันทร์วาดจึงเข้ากันได้ดีกับคุณหญิงจำปา  เพราะคุณหญิงจำปาเกลียดชังแม่การะเกดเหลือเกิน  แต่อยากได้จันทร์วาดเป็นลูกสะใภ้  สองคนจึงรวมหัวกันแกล้งการะเกดต่างๆนานา
 
อีกคนหนึ่งที่มีใจให้หมื่นสุนทรเทวาคือแม่มะลิ  เกศสุรางค์นั้นเชียร์เพื่อนจนสุดตัว  แต่หมื่นสุนทรเทวากลับพูดจาเป็นนัยๆว่า  อย่าออกแรงหนุนผู้ใดให้เขาเลย  คนที่เขาพอใจคือคนที่เกศสุรางค์เห็นยามส่องกระจกต่างหาก  ทำให้แม่หญิงตัวแสบถึงกับหวั่นไหวในใจกับวาจาเกี้ยวพายอกย้อนของหนุ่มอยุธยา  แต่พยายามกลบเกลื่อนไม่ยอมรับลูกเดียว
 
บุพเพสันนิวาสทำงานไปเรื่อยๆ  ความผูกพันระหว่างแม่หญิงการะเกดตัวปลอมกับขุนนางหนุ่มแห่งอยุธยาก่อตัวขึ้นทีละน้อยๆ  ทีท่านั้นต่างก็รู้กันอยู่แก่ใจ  แต่ปากแข็งใจแข็งไม่ยอมรับทั้งคู่  จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นทอล์คออกเดอะทาวน์ของอยุธยา  คือเรือที่หมื่นสุนทรเทวาและการะเกดนั่งมาด้วยกัน  ถูกเรือลำหนึ่งชนอย่างแรงจนคว่ำลง  หมื่นสุนทรเทวาถูกหัวเรือกระแทกที่กกหูจนตกน้ำสลบไป  เกศสุรางค์ใช้วิธี “เมาท์ทูเมาท์” ช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้  เรื่องนี้เป็นที่โจษจันอื้ออึงทั้งอยุธยา  เกศสุรางค์ไปทางไหนก็ถูกมองถูกซุบซิบจนเริ่มจะรู้สึกเดือดร้อน  ทำนองเดียวกันหมื่นสุนทรเทวาที่ตอนนี้ได้รับอวยยศเป็น ขุนศรีวิสารวาจา ก็รู้สึกเช่นกัน  จึงเสนอตัวว่าจะออกเรือนกับแม่หญิงการะเกด
 
เหมือนระเบิดลง  หลายคนสะเทือนกันไปหมด  คนที่อกหักจากข่าวนี้  คนแรกคือขุนเรืองราชภักดีที่เฝ้าปลูกต้นรักกับการะเกด  คนต่อมาคือแม่หญิงจันทร์วาด  เพราะแม้แต่คุณหญิงจำปาก็ช่วยไม่ได้  และคนสุดท้ายคือแม่มะลิที่เสียอกเสียใจมากมาย  เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าสองคนเป็นคู่หมายกัน  สุดท้ายแม่มะลิจึงตัดสินใจรับปากจะแต่งงานกับหลวงสุรสาคร  ที่พยายามเทียวไล้เทียวขื่อกับตนมาตั้งแต่เกิดเรื่องวิวาทกับแม่หญิงการะเกดในครั้งกระโน้น  เกศสุรางค์ไปงานแต่งงานด้วย  และในวันนั้นเองจึงได้รู้ว่าหลวงสุรสาครคือ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์  ส่วนแม่มะลิคือ มารี เดอ กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า  บุคคลสำคัญสองคนในประวัติศาสตร์ไทยนั่นเอง
 
ทางด้านขุนศรีวิสารวาจารู้ว่าเหตุการณ์เรือล่มเป็นฝีมือของฟอลคอนจึงไปเอาเรื่อง  เกศสุรางค์ขอตามไปด้วย  ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าฟอลคอนไม่ยอมรับ  แต่ก่อนจะกลับเกศสุรางค์ก็ไปได้ยินฟอลคอนคุยกับพวกของเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส  ว่าพวกเขาจะเผาตลาดแล้วโยนความผิดให้พวกทหารไทย  เพื่อที่ฝรั่งอย่างพวกเขาจะได้เข้าให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้าน  แล้วค่อยๆชวนให้พวกชาวบ้านหันมานับถือพวกตนแทน  แล้วในขณะนั้นฟอลคอนเกิดได้กลิ่นน้ำอบของผู้หญิงไทยเข้า  จึงรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ในบริเวณนั้นก็เลยตามหาและไล่ยิงเกศสุรางค์  จนเธอเกือบจะถูกยิง  แต่พ่อเดชมาช่วยและพาหนีไปได้ทัน
 
พ่อเดชทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงเกศสุรางค์มากที่ทำตัวเสี่ยงเกินไป  จนเขาโพล่งความในใจที่มีต่อหญิงสาวออกมาว่าเขารักเธอ  ทำเอาเกศสุรางค์อึ้งไปเลย  ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่ได้รับรู้ความรู้สึกของเขา  แต่อีกใจเธอก็ต้องหักห้ามใจตัวเอง  เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งเธอก็จะต้องกลับไปยังโลกของเธอ  และเธอเคยปฏิญาณแล้วว่าเธอจะรักเรืองฤทธิ์ผู้เดียวไปตลอดชีวิต  ที่สำคัญก็คือว่าพ่อเดชเป็นคนรักของแม่หญิงการะเกด  ไม่ใช่ของเธอ  เกศสุรางค์จึงทำเป็นไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่ารักจากพ่อเดช  มิหนำซ้ำยังขอให้การแต่งงานเลื่อนออกไป  โดยอ้างว่าน่าจะรอให้ขุนศรีวิสารวาจาเข้าไปรับตำแหน่งในวังให้เรียบร้อยเสียก่อน  นั่นสร้างความเสียใจให้กับพ่อเดชมาก  เพราะเขาคิดไปว่าแม่หญิงการะเกดไม่ได้รักเขาเลย  หารู้ไม่ว่าเกศสุรางค์เองก็ต้องหักห้ามใจตนเองเหมือนกัน
 
วันหนึ่งเกศสุรางค์ที่อยากหาหนังสืออ่านเพื่อให้ลืมความทุกข์ใจ  เธอจึงเข้าไปในห้องทำงานของออกญาโหราธิบดีตามที่ได้รับอนุญาต  แล้วเกศสุรางค์ก็เห็นพานอะไรบางอย่างอยู่บนหลังตู้จึงหยิบมาดู  โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือบทสวดมนต์กฤษณะกาลี  ซึ่งใครที่ยังไม่ได้ทำพิธีขออนุญาตไม่สามารถจับต้องได้  ดังนั้นเพียงแค่เกศสุรางค์แตะมือลงไป  วิญญาณของเธอก็กระเด็นหลุดจากร่างของแม่หญิงการะเกดทันที !  พ่อเดชกลับมาถึงเรือนพอดี  จึงได้เห็นวิญญาณของเกศสุรางค์ยืนอยู่ข้างๆร่างของแม่หญิงการะเกดที่นอนไร้ลมหายใจอยู่บนพื้น  ก่อนที่วิญญาณของหญิงสาวผู้นั้นจะเลือนหายไป  พ่อเดชปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา  ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมามีวิญญาณของหญิงสาวผู้อื่นอยู่ในร่างของการะเกด
 
ท่านชีปะขาว อาจารย์ของพ่อเดชที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงตามมาถามว่าเขารักใคร  เขาตอบโดยไม่ต้องคิดว่าเขารักวิญญาณผู้หญิงคนนั้นที่เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใครและมาจากไหน  แต่ตอนนี้เขาต้องการให้เธอกลับมาอยู่กับเขา  ท่านชีปะขาวจึงบอกให้ท่องมนต์กฤษณะกาลี  เพื่อเรียกวิญญาณของแม่หญิงผู้นั้นกลับมา  ด้วยความรักที่มีต่อเกศสุรางค์เขาจึงนั่งท่องมนต์กฤษณะกาลีข้ามวันข้ามคืนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
 
ส่วนทางด้านวิญญาณของเกศสุรางค์นั้นก็หลุดล่องลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย  เกศสุรางค์ร้องไห้ด้วยความกลัวจับใจ  และในขณะที่มิติของทั้งสองโลกบรรจบกัน  วิญญาณของเธอได้กลับไปยังโลกปัจจุบัน  และได้ไปเห็นว่าคุณสิปางกำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้ารูปตั้งหน้าศพของเกศสุรางค์  แล้วยายนวลก็เข้ามาปลอบใจ  เกศสุรางค์จึงรู้ว่าตัวเธอตายไปแล้วตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น  และได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเรืองฤทธิ์ก็รักเธอมากเสียจนขอบวชตลอดชีวิต
 
เกศสุรางค์ซาบซึ้งใจมาก  แล้วขณะที่จ้องพระเรืองฤทธิ์อยู่นั้น เธอก็เห็นเงาสะท้อนของพ่อเดชอยู่ในร่างของเรืองฤทธิ์ เธอจึงเข้าใจแล้วว่า  แท้จริงแล้วเรืองฤทธิ์ก็คือพ่อเดชมาเกิดใหม่ แล้วไม่เพียงเท่านั้น เกศสุรางค์ยังได้พบกับแม่หญิงการะเกดที่มาในสภาพที่สวยงาม อันเป็นผลจากบุญที่เกศสุรางค์ทำให้อยู่เรื่อยๆ การะเกดมาขอบคุณเกศสุรางค์และมาอนุญาตให้เกศสุรางค์ใช้ร่างของเธอได้เลย เพราะเธอหมดบุญแล้ว ส่วนเกศสุรางค์นั้นก็ได้หมดบุญในชาติปัจจุบันเช่นกัน แต่กลับไปเกิดใหม่ในชาติอดีตแทน เพื่อที่จะได้ไปครองรักกับเนื้อคู่ของเธอซึ่งก็คือขุนศรีวิสารวาจานั่นเอง
 
เมื่อวิญญาณของแม่หญิงการะเกดเลือนหายไปแล้ว เกศสุรางค์ก็ได้ยินมนต์กฤษณะกาลีอีก เธอรู้ว่าไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตในชาติปัจจุบันได้อีกแล้ว จึงกลับไปกราบลาแม่กับยายและร้องไห้แทบจะขาดใจ ก่อนจะกลับเข้าไปในร่างของแม่หญิงการะเกด 
 
เมื่อร่างของการะเกดฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พ่อเดชที่ร่างกายอิดโรยมากจากการนั่งท่องมนต์มาหลายวัน ก็สวมกอดร่างของเธอเอาไว้แน่นและกระซิบบอกข้างหูของเกศสุรางค์ว่า...ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน แต่ให้รู้เอาไว้ว่าเธอคือแม่หญิงที่เขาจะรักตลอดไ  เกศสุรางค์ดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป และเธอก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะรักเขาอีกต่อไป เพราะพ่อเดชเป็นเนื้อคู่ของเธอที่บุพเพสันนิวาสดลบันดาลให้ทั้งสองได้มาพบกัน