NOW PLAYING

NEXT SONG

เสน่ห์รักนางซิน

Apr 23 16:50:21, 2018 / ดู 2,705 ครั้ง

บทประพันธ์ : จันทริกา 
บทโทรทัศน์ : ณัฐฐา
กำกับการแสดงโดย : ป๊อป รัฐกิตติ์ กิตติรัฐธนะโภคิน
ดำเนินงานโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : พี่คิง สมจริง ศรีสุภาพ
 

“นุ่ม เบา  สบาย...ก่อนตายต้องได้ลอง”
 
นี่คือสโลแกนแบรนด์รองเท้าในฝันของ “พริม” สาวสวยกำพร้าสู้ชีวิตวัย 23 ปีผู้มีความ หลงใหลเรื่องรองเท้าชนิดเข้าเส้นเลือด พริมมุ่งมั่นตั้งใจว่าสักวันเธอจะมีแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเอง เพื่อสานฝันของ “พาพร” แม่ซึ่งเป็นอดีตช่างเย็บรองเท้าให้สำเร็จและเพื่อตามหา “เขา” ผู้ชายคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ แม้ว่าเขาจะทิ้งเธอกับแม่ไปตั้งแต่เธอยังไม่เกิดก็ตาม 
 
พริมอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่เกิด แม่หาเลี้ยงพริมด้วยอาชีพช่างเย็บรองเท้า ครอบครัวของแม่ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย แม่จึงเป็นช่างเย็บรองเท้าที่มีฝีมือมาก แต่พวกเขาไม่มีโอกาสที่ดี พาพรจึงเป็นได้แค่เจ้าของร้านเย็บรองเท้าริมถนน..แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่พริมใช้ชีวิต กับแม่อย่างมีความสุขเหลือเกิน...
 
เมื่อแม่จากไปตอนพริมอายุแค่สิบขวบ พริมย้ายไปอาศัยอยู่กับ “ลุงฟัก” กับ “ป้ารำไพ” ญาติแท้ๆ ที่จังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย พริมกลับเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ พริมเลือกที่จะเรียนที่ ม.ราม เพื่อจะได้หางานทำไปด้วย พริมไม่เคยเกี่ยงงานขอให้ เป็นงานที่สุจริตและเกี่ยวกับรองเท้าพริมทำได้หมด พริมเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงเรียนคอร์สออกแบบดีไซน์ เพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงและตอนนี้พริมได้มาทำงานเป็นพนักงานขายรองเท้าอยู่ที่ห้างดังกลางกรุง...
 
วันหนึ่งพริมทะเลาะกับ “แองจี้” เพื่อนร่วมงานตัวแสบ เหตุเพราะนางมัวแต่ก้มแชทมือถือ จึงไม่ได้ดูแลลูกค้าที่มายืนรอนานแล้ว พริมก็เลยเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแทนจนลูกค้า พอใจสั่งซื้อรองเท้ากับพริมไปหลายคู่ แองจี้หาว่าพริมตั้งใจแย่งลูกค้าก็เลยเรียกก๊วนเพื่อนมารุม พริม งานนี้ร้อนถึง “บุสกร” และ “ปริตา” เพื่อนสนิทของพริมที่อยู่แผนกกีฬากับแผนกเสื้อผ้าสตรีต้องรีบมาช่วยเสริมทัพให้พริมทั้งสองฝ่ายทะเลาะตบตีกันจนวุ่นวายไปทั้งห้าง แต่พวกพริมกลับถูก “สมร” หัวหน้าแผนกไล่ออกตามคำสั่งของ “พัชรา” เจ้าของห้างและภรรยาของ “บารมี” 
 
พริมรู้สึกได้ตั้งแต่มาทำงานแรกๆ ว่าพัชราไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่พริมก็ไม่เคยรู้ตัวว่าเธอไปทำอะไรให้พัชราซึ่งพัชราเองก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกันว่า..ทำไมถึงไม่ชอบหน้าเด็กชื่อพริมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า อาจเป็นเพราะว่าหน้าตาของพริมมีส่วนละม้ายคล้าย “ใครบางคน” ที่เธอเกลียดฝังใจ
 
 
ทว่าความวุ่นวายของชีวิตพริมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น..เพราะจู่ ๆ ลุงฟักโทรมาตามให้พริมรีบลงไปที่ภูเก็ต เพื่อช่วยเกลี่ยกล่อมให้ป้ารำไพยอมลงจากต้นไม้ สาวๆ อาศัยช่วงว่างงานลงไปภูเก็ตกันด้วย เมื่อไปถึงสามสาวจึงรู้ว่าสาเหตุที่ป้ารำไพทำเช่นนั้น ก็เพราะอยากจะประท้วงให้ลุงฟักหยุดพูดเรื่องไปเที่ยวยุโรป ที่ก่อนหน้านั้นลุงฟักดันเป็นผู้โชคดีที่ได้รางวัลไปทัวร์ยุโรปจากการส่งชิงโชคนานกว่าสองอาทิตย์เป็นจำนวน 2 ที่ แต่ป้ารำไพยืนกรานไม่ยอมไป เพราะต้องทำหน้าที่คุณแม่บ้านดูแลคฤหาสน์ให้ “คุณปรีชา” เศรษฐีอารมณ์ดีที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก แต่พริมไม่อยากให้ลุงกับป้าเสียโอกาสดีๆ ไป พริมกับเพื่อนอาสาจะดูแลคฤหาสน์ให้เอง ป้ารำไพถึงได้ยอม 
 
การได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เป็นเสมือนความฝันของพริมและเพื่อนๆ บุสกรตื่นเต้นกับห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน ตามประสาสาวห้าวรักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ บุสกรใฝ่ฝันอยากให้น้องๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมามีสุขภาพที่ดีและห้อง เสื้อผ้าที่มีตู้เสื้อผ้าอลังการดาวล้านดวงก็สร้างความตื่นเต้นให้กับปริตา...สาวอ่อนหวานที่รักเรื่องเสื้อผ้าเพราะแม่ของเธอก็เป็นช่างตัดเสื้อผ้าอยู่ในสลัม แต่สิ่งที่ทำให้พริมตื่นเต้นได้มากที่สุดก็คือ การ์ดเชิญถึงคุณปรีชาให้ไปร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่ “P.Paul” บริษัทผลิตรองเท้าชื่อดัง จากฝรั่งเศสจะจับมือกับบริษัทสิ่งทอของประเทศไทยผลิตรองเท้าเพื่อคนไทย ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้น ที่โรงแรมมุกทะเล..โรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์
 
สาเหตุที่พริมตื่นเต้นเพราะ “P.Paul” มีนโยบายสนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้ออกแบบรองเท้าให้กับแบรนด์และมีดีไซเนอร์หน้าใหม่แจ้งเกิดเพราะ “P.Paul”  มาแล้วนับไม่ถ้วน พริมฝันไปไกลว่าอยากให้รองเท้าที่เธอออกแบบไว้ได้รับการสนับสนุนจาก “P.Paul” ดังนั้นสิ่งแรกที่พริมต้องทำคือ...ทำให้เจ้าของ“P.Paul”เห็นผลงานออกแบบรองเท้าของเธอให้ได้  และแล้วแผนไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะหลานสาว(กำมะลอ)ของคุณปรีชาจึงเกิดขึ้น โดยที่พริมไม่รู้ว่า...ลูกชายตัวจริงของคุณปรีชาเป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงนั้น !?!?
 
 
เขาคือ “ภูรี” ชายหนุ่มรูปหล่อบาดใจ ภูรีไม่ได้มีดีแค่ความหล่อแต่เขายังมีดีที่สมองเป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ทุกอย่างต้องดีต้องเนี้ยบ ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาที่ฝรั่งเศสจะร่ำรวยระดับเศรษฐี แต่ภูรีก็ไม่เคยหยุดที่จะทำอะไรด้วยตัวเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งธุรกิจที่ภูรีเป็นเจ้าของก็คือ...แบรนด์รองเท้ายี่ห้อ P.Paul นั่นเอง   
 
ภูรีร่วมธุรกิจผลิตรองเท้ากับบริษัทสิ่งทอซึ่งเป็นของครอบครัว “อินทัช” เพื่อนสนิท รวมถึงโรงแรมมุกทะเลที่จะเป็นสถานที่จัดงานก็เป็นของ  “ภควัต” หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิทอีกคนของเขา ภูรีจงใจจัดงานที่ภูเก็ตเพราะเขาอยากจะเชิญปรีชาพ่อของเขามาร่วมงาน ภูรีตั้งใจ จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้พ่อเห็นว่า...พ่อไม่เคยมีอิทธิพลกับชีวิตของเขาแม้แต่น้อย ถึงไม่มีพ่อดูแลชีวิตเขาก็ดีได้ แต่วันงาน..ผู้ที่มาร่วมงานแทนพ่อกลับเป็นผู้หญิงสามคนที่บอกว่าตัวเองเป็นหลานสาวของพ่อ!
 
ภูรีมั่นใจว่าพวกเธอโกหกเพราะพ่อของเขาไม่เคยมีหลาน ภูรีจึงสั่งให้การ์ดไล่พวกเธอออกไปจากงานอย่างไร้เหตุผล แต่พริมไม่ยอมแพ้...ยังไงคืนนี้เธอก็จะต้องอวดผลงานตัวเอง ให้เจ้าของ “P.Paul” ดูให้ได้   
 
เธอหาทางเข้าไปในงานจนกระทั่งไปพบกับภควัตเจ้าของโรงแรม ภควัตมีท่าทีสนใจในตัวพริม พริมมั่นใจว่าภควัตจะช่วยพาเธอเข้าไปในงานได้แน่ เธอจึงจำใจต้องใช้มารยาหญิงกับ ภควัตด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทำให้ภูรีเข้าใจผิดไปว่าพริมเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบตะกายดาว หาคนรวย ๆ มาเป็นสปอนเซอร์   
 
เมื่อแผนการอ่อยภควัตไม่สำเร็จ เพราะภควัตต้องรีบไปทำธุระ พริมหงุดหงิดมากจึงเดินออกมายังชายหาดแล้วเธอก็พบว่าอินทัชกำลังร้องไห้ตะโกนบอกท้องฟ้าถึงความโชคร้ายเรื่องความรัก ก่อนที่อินทัชจะก็เดินลงไปทะเล พริมเข้าใจผิดคิดว่าอินทัชจะฆ่าตัวตายจึงลงไป ช่วยอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งที่ความจริงแล้วอินทัชจะลงไปงมหาแหวนของอดีตคนรัก เพราะเกิดเสียดายขึ้นมาอย่างกะทันหัน อินทัชยังไม่ทันได้บอกความจริงกับพริม พริมก็ถาโถมถ้อยคำให้กำลังใจอินทัชชุดใหญ่ ทำให้เขารู้สึกดีกับพริมมาก อินชัยจึงยกตำแหน่ง “ว่าที่แม่ของลูก” คนใหม่ให้กับพริม
 
 
อาการคลั่งไคล้พริมที่อินทัชแสดงให้ภูรีเห็นนั้น ยิ่งทำให้ภูรียิ่งมั่นใจว่าพริมเป็นผู้หญิงตะกายดาวที่จ้องจะจับผู้ชายรวยๆ ภูรีเป็นห่วงกลัวว่าปรีชาพ่อของเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกคน!!!
 
ภูรีอยากรู้ว่าพริมกับเพื่อนๆ เป็นใครกันแน่จึงวางแผนให้ภควัตไปโกหกสาวๆ ว่าภูรีกับอินทัช ซึ่งเป็นลูกน้องของเขากำลังถูกมาเฟียประจำถิ่นเล่นงาน เพราะเขาสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าไปรู้เห็นเรื่องธุรกิจเถื่อนของพวกมันจนต้องหาที่หลบซ่อนตัวชั่วคราว ระหว่างนี้ภูรีกับอินทัชยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ พวกเขาขอหลบไปพักที่บ้านของสาวๆ ก่อนสักระยะหนึ่ง
 
ตอนแรกพริมลังเลเพราะไม่ไว้ใจ แต่เมื่อทบทวนว่าเธอมีบุสกรที่มีดีกรีแชมป์เทควันโด้สายดำ อีกอย่างภควัตก็เป็นคนมีชื่อเสียง เขาคงจะไม่กล้าทำเรื่องไม่ดีกับพวกเธอ และอีกเหตุผลที่สำคัญเลยคือ...ภควัตรู้จักกับเจ้าของ “P.Paul” ถ้าเธอมีน้ำใจกับลูกน้องของภควัต เขาก็ อาจจะช่วยให้เธอได้พบกับผู้บริหาร “P.Paul”
  
ดังนั้นพริมจึงยอมให้หนุ่ม ๆ ไปอยู่ที่คฤหาสน์หรูที่ไร้เงาคนใช้ พริมโกหกว่า...แดดดี๊กับ ม๊ามี๊ที่อยู่ปารีสต้องการขัดเกลานิสัยเธอกับเพื่อนๆ  ที่ชอบใช้ชีวิตสบายจนเคยตัวจึงสั่งไล่คนใช้ออกให้หมด เพื่อให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเองแล้วกลับไปบริหารธุรกิจพันล้าน 
หรา !!!!!!!!!!!!!!! .......ภูรีคิดในใจ      
 
“การอยู่ร่วมกันระหว่างหลานสาวเจ้าของคฤหาสน์ตัวปลอมกับลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ ตัวจริงจึงสร้างความชุลมุนอย่างหนักหน่วง” 
พริมกับเพื่อนๆ ต้องวางท่าเป็นคุณหนูไฮโซตบตาภูรีกับอินทัช...ซึ่งเป็นเรื่องที่ทรมาน สาวโลว์โซทั้งสามมาก แต่พริมมักจะเห็นว่าภูรีคอยจ้องเดินตามเธอ และชอบถามเรื่องส่วนตัวเธอ ทำให้พริมคิดไปว่าภูรีตามจีบเธอเพราะหวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร พริมจึงไม่ชอบขี้หน้าภูรี เอาซะเลย เหมือนที่ภูรีก็ตามสืบประวัติของพริมจนรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของลุงฟักกับป้ารำไพคนเฝ้าบ้านของพ่อ ตอนนี้พริมยังเรียนอยู่ภูรีคิดไปเองว่าพริมจะต้องเป็นเมียเด็กของพ่อจอมเจ้าชู้ของเขาแน่ๆ 
 
 
แต่การที่พริมก็มักจะถามถึงเจ้าของ “P.Paul” จากภควัต แล้วทุกครั้งที่พริมถาม...ดวงตาของหญิงสาวจะเป็นประกายวิบวับ และเธอก็จะต้องตื่นเต้นเว่อร์ ๆ ทุกครั้งที่ภควัต แกล้งพูดว่าเจ้าของ “P.Paul”  จะไปปรากฏตัวที่ใด ภูรีเคยแอบติดตามสาวๆ ไป และพบว่าพวกเธอตามไปหาเจ้าของ “P.Paul” ตามที่ภควัตโกหกจริงๆ แถมยังแต่งตัวกันสวยเว่อร์ ภูรีจึงเข้าใจไปว่าพริมอยากจับเจ้าของ “P.Paul” นั่นเอง นั่นหมายความว่าพริมกำลังมาหลอกสวมเขาให้พ่อในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพริมกับภูรีจึงไม่ค่อยจะดีนัก เจอหน้ากันทีไรต้องกัดจิกทะลุเนื้อกันทุกที
 
วันหนึ่งพริมได้พบกับ “พงศกร” หนุ่มหน้าใสวัย 20 ปีโดยบังเอิญ พงศกรติดใจความสวยของพริม ถึงพริมจะอายุมากกว่าแต่พงศกรไม่แคร์เพราะเขาเป็นพวกชอบทำอะไรตามใจตัวเอง พงศกรโกหกพริมว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกจึงมาเที่ยวพักผ่อน แต่ความจริงคือเขากลับมาเพื่อหลบซ่อนตัวตามคำสั่งของพัชราแม่ของเขา เนื่องจากพงศกรไปทำ “วีรี” สาวน้อยโลกสวยวัย 16 ปีตั้งท้องครอบครัวของวีรีจะเอาเรื่องพงศกรและถ้าเรื่องนี้ถึงทางการเมื่อไหร่ พงศกรจะต้องเจอโทษหนักตามกฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่ถึง 18 ปีของประเทศอเมริกา    พัชรากับ “วิกกี้” พี่สาวจึงต้องรีบบินไปเคลียร์ปัญหาให้ ซึ่งก็จบปัญหาด้วยการยัดเงินไปหลายล้านบาท
 
พงศกรเข้าหาพริมในมาดของผู้ชายแสนดี แถมยังแวะเวียนไปตามติดเพื่อจีบพริมให้ได้ แต่พอภูรีเห็นหน้าพงศกร เขาก็ต้องรีบชิ่งหนีหลบทันที เพราะวิกกี้พี่สาวของพงศกรเป็นคู่หมั้น คู่หมายของภูรีตามที่ผู้ใหญ่จัดการ ทั้ง ๆ ที่ภูรีไม่คิดอะไรและเห็นวิกกี้เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น
 
ภูรีต้องคอยปลอมตัวต่างๆ นานา เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้พงศกรเห็น บ่อยครั้งที่เกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็ได้อินทัชคอยช่วยลุกลามไปจนถึงทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะอินทัชหมั่นไส้ที่พงศกรมาจีบพริม “ว่าที่แม่ของลูก” ที่ตนหมายมั่นปั้นมืออยู่
  
ทว่าพริมไม่เคยรู้เลยว่าอินทัชมีใจให้เธอ มีเพียงปริตาที่รู้เพราะเธอสนิทกับอินทัช เนื่องจากปริตาตกหลุมรักภควัตอยู่ แต่ปริตาไม่กล้าเผยความในใจเพราะรู้ตัวเองดีว่าตัวเองเป็นแค่ลูกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าจนๆ  ปริตาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนรู้เพราะบุสกรเกลียดขี้หน้าภควัต    ส่วนพริมก็หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องออกแบบรองเท้า ปริตาจึงมีแค่อินทัชเป็นคนคอยให้คำปรึกษา   
 
วันหนึ่งพงศกรแอบได้ยินพริมคุยกับปริตาเรื่องอยากเจอเจ้าของ “P.Paul” เขาจึงออกอุบายชวนพริมไปปาร์ตี้ที่เกาะส่วนตัว โดยโกหกว่าปาร์ตี้แห่งนี้มีเจ้าของ “P.Paul” ไปร่วมด้วย พริมหลงกลยอมไปปาร์ตี้กับพงศกร โดยไม่รู้ว่าพงศกรพาไปมอมยาเพื่อหวังรวบหัวรวบหางพริม แต่เคราะห์พริมยังดีอยู่เพราะภูรีไปช่วยไว้ได้ทัน แต่ระหว่างหนีภูรีและพริมกลับต้องลอยคออยู่กลางทะเลก่อนจะได้ชาวประมงช่วยไว้ ทั้งสองจึงต้องใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างที่รอให้มีคนมาช่วย
 
 
การใช้ชีวิตบนเกาะไม่ได้สร้างความลำบากให้กับคุณหนูกำมะลออย่างพริมเท่าใดนัก เพราะชีวิตจริงของพริมต้องผ่านความลำบากมาอย่างมากมาย พริมแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ต่างจากภูรีที่แสนจะลำบากเพราะชีวิตเขามีชีวิตที่สุขสบายมาโดยตลอด...การพยายามแสร้งทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองจึงเป็นปัญหามาก แต่ทั้งสองก็ได้ช่วยเหลือและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน   
 
ภูรีถามพริมเรื่องทำไมเธอต้องตามหาเจ้าของ “P.Paul” พริมตัดสินใจเล่าให้ภูรีฟังเรื่อง ความฝันที่จะสานฝันสร้างรองเท้าของแม่ เพราะแบบรองเท้าเป็นแบบที่พ่อเคยวาดไว้ให้แม่ก่อนที่พ่อจะทิ้งแม่ไป ซึ่งตอนนี้พ่ออาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่พริมก็อยากทำเพื่อพ่อ 
ภูรีแปลกใจที่พริมไม่มีความรู้สึกโกรธเกลียดพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว พริมบอกว่า... “ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง” อย่าเพิ่งไปโกรธเกลียดใครถ้ายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา ภูรีจึงเข้าใจพริมมากขึ้นแล้วความรักก็ก่อเกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ    
 
ทะเลแสนเค็มกำลังจะกลายเป็นทะเลแสนหวานสำหรับหัวใจของคนทั้งสอง แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเมื่อเรือของเพื่อนๆ ที่มาช่วยพวกเขามีวิกกี้คู่หมั้นของภูรีมาด้วย !...เพราะก่อนหน้านั้นบุสกรตามไปเอาเรื่องพงศกรที่คอนโด ขณะเดียวกันวิกกี้ก็ตามมาหาภูรีที่ภูเก็ต บุสกรและปริตาจึงรู้ความลับของหนุ่มๆ แล้ววิกกี้ก็ขอตามมาช่วย “พี่ภู” ด้วย...วิกกี้โผเข้าสวมกอดภูรีทันทีที่เห็นหน้ามันบาดเข้าไปในใจของพริม ยิ่งเธอรู้เรื่องจากบุสกรว่าความจริงแล้วภูรีเป็น ลูกชายของนายหัวปรีชาเจ้าของคฤหาสน์ นั่นยิ่งสร้างความเสียใจและอับอายให้กับพริมเป็น อย่างมาก!!
 
พริมหนีกลับไปกรุงเทพพร้อมกับบุสกรและปริตา โดยที่เธอก็ยังไม่รู้เรื่องที่ภูรีเป็นเจ้าของ “P.Paul” ภูรีก็เสียใจไม่น้อยที่พริมโกหกเขา...ภูรีจึงไม่คิดจะตามง้อพริม  ทั้งที่ใจของเขา ร่ำร้องหาเธอเสียเหลือเกิน    
 
พริมกับเพื่อนๆ กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กรุงเทพฯ สามสาวตัดขาดจากหนุ่มๆ ทางด้านปริตาเองก็โกรธอินทัชที่อุตส่าห์ไว้ใจเขาถึงยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ปริตากลายเป็นตัวตลกของเขาขณะเดียวกันอินทัชก็แปลกใจตัวเองที่เขาเกิดความรู้สึกว่าอยากปรับความเข้าใจกับปริตามากกว่าพริม อินทัชยังไม่รู้ใจตัวเองว่าชอบปริตา เขาคิดแต่เพียงว่าอาจเป็นเพราะปริตา เป็นเพื่อนคุยที่ดีของเขาอินทัชไปง้อปริตาพร้อมกับภควัตทำให้ปริตาใจอ่อนยอมคืนดี แต่ก็ยังไม่ยอมบอกว่าพริมอยู่ที่ไหน  
 
ทางด้านพริมได้ไปสมัครงานกับมอสเจ้าของออแกไนเซอร์ชื่อดัง แล้วได้ไปจัดงานอีเว้นท์ที่ห้างของบารมีในงานเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นจากการที่พงศกรตามมาราวีพริม เพราะถึงพริมจะไม่ได้รวยจริง แต่เขาเกิดความรักพริมจริงๆ ขึ้นมา เมื่ออยู่กับพริมเขาเกิดความอบอุ่นในหัวใจอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะว่าพริมเป็นคนเดียวที่กล้าดุด่าตักเตือนเขาไม่ใช่ ตามใจเขาทุกอย่างเหมือนที่ครอบครัวเขาทำและความวุ่นวายจากการตามง้อพริมของพงศกร ทำให้พริมได้บาดเจ็บ
 
บารมีในฐานะเจ้าของห้างและเป็นพ่อของพงศกรก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการพาพริมไปส่งโรงพยาบาลและพาไปส่งที่บ้านพัก ทำให้บารมีได้เห็นรูปวาดรองเท้าที่เขาเคยวาดไว้ เมื่อครั้งยังรักกับพาพร..ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ บารมีจึงรู้ความจริงว่าพริมคือลูกของพาพร  เท่ากับว่าพริมเป็นลูกสาวของเขานั่นเอง!!
 
แต่บารมีไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับพริมได้เพราะเขารู้จักพัชราดี ถ้าพัชรารู้เรื่องเข้าชีวิตของพริมจะไม่สงบสุขอีกเลยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของพาพร ตอนนั้นบารมีถูกจับให้แต่งงานกับพัชราเพราะครอบครัวทั้งสองร่ำรวยเหมือนกัน แต่บารมีไม่ได้รักพัชราเลย เขารักพาพรหญิงสาวจิตใจดีแต่เธอเป็นแค่พนักงานในห้างของเขา ความรักของพวกเขาจึงถูกขัดขวางจากครอบครัวและพัชรา...ผู้ไม่เคยยอมแพ้ใครและบารมีก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอที่จะปกป้องคนรัก เขาเลือกที่จะทิ้งพาพรให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่รู้ว่าพาพรกำลังมีลูก!  
 
หลังจากที่บารมีรู้ว่าพริมคือลูกของเขา บารมีก็แอบให้ความช่วยเหลือพริมมาโดยตลอด บารมีไปขอความช่วยเหลือจากภูรีเรื่องทำฝันของพริมให้เป็นจริง บารมีขอร้องภูรีว่าทุกอย่างต้องเป็นความลับ ภูรียินดีช่วยเพราะใจจริงเขาเองก็ชอบไอเดียในเรื่องดีไซน์รองเท้าของพริมมา ตั้งแต่ที่อยู่ภูเก็ต แต่ภูรีไม่เข้าใจว่าทำไมบารมีจะต้องช่วยเหลือพริมมากขนาดนี้
 
พริมดีใจที่สุดในชีวิตที่ “P.Paul” ติดต่อให้เธอนำผลงานไปเสนอ อินทัชและภควัตรู้ดีว่าใครคือเจ้าของ “P.Paul” แต่ไม่เคยมีใครบอกให้สาวๆ รู้ตามคำขอของภูรี อินทัชอาสาช่วยสอนพริมใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบกราฟฟิคแทนที่จะเป็นแค่วาดรูป 
 
บุสกรสาวห้าวมีงานเสริมอีกอย่างที่ภควัตไม่เคยคาดคิดคือเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิ วันหนึ่งบุสกรได้รับแจ้งให้ไปช่วยเก็บศพอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้เคียง บุสกรกระชากกุญแจรถของภควัตแล้วจะขับออกไป ภควัตกระโดดขึ้นตามไปด้วยอารมณ์ตกใจ ภควัตก็เลยตกกระได พลอยโจนได้ไปช่วยบุสกรเก็บศพ แต่แค่เห็นเลือดภควัตก็สลบเหมือด หลังจากนั้นมาบุสกรจึงเรียกภควัตว่า “ใจตุ๊ด” ภควัตต้องหาโอกาสลบคำสบประมาทนี้ เขายอมไปช่วยบุสกรเก็บศพบ่อยๆ จนทำให้ภควัตได้รู้จักกับความสุขกับการเสียสละเพื่อคนอื่น แล้วความใกล้ชิดก็ ทำให้ภควัตกับบุสกรเริ่มรู้สึกดีต่อกันจนกลายเป็นความรัก
 
แล้ววันสำคัญของพริมก็มาถึงคือเข้าไปพรีเซนต์รองเท้าที่บริษัท “P.Paul” โดยที่ภูรีไม่เข้าไปและคอยหลบหน้าพริม แต่โชคร้ายที่วิกกี้มาหาภูรีเข้าพอดี ทำให้พริมรู้ความจริงว่าเจ้า ของ“P.Paul” คือภูรี   
 
 
ภูรีโกหกเธออีกแล้ว!! ภูรีตามมาขอโทษพริมจนเขาเผลอพูดออกมาว่าบารมีให้เขาช่วยพริม พริมสงสัยว่าทำไมบารมีต้องทำแบบนี้ จึงร่วมมือกับบุสกรและปริตาหาทางสืบ แล้วก็ได้รู้ความจริงจากป้ารำไพที่เห็นรูปของบารมีว่า...บารมีเป็นพ่อของเธอ! และวิกกี้กับพงศกรก็เป็นน้องต่างมารดาของเธอ 
 
พริมเคยคิดว่าที่พงศกรเคยบอกว่า รู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้พริมคงจะไม่ได้เป็นแค่คำหวานเลื่อนลอย แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากสายใยสายสัมพันธ์พี่น้องนั่นเอง พริมรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เพราะเกิดมาเธอก็ไม่เคยมีพี่น้องเหมือนคนอื่น   
 
ขณะเดียวกันพัชราก็สงสัยว่าบารมีจะเอาพริมเป็นเมียน้อย จึงหาเรื่องวีนบารมีอยู่เสมอจนบารมีรำคาญหนีไปอยู่ที่คอนโด ทำให้พัชรายิ่งเข้าใจผิดคิดว่าบารมีไปขลุกอยู่กับเมียน้อยพัชรา สั่งให้นักสืบสืบประวัติของพริม พัชราจึงรู้ว่าพริมเป็นลูกสาวของพาพรมารหัวใจของเธอ !! 
 
พัชราก็สั่งให้บารมีเลือกระหว่างครอบครัวและนังลูกที่เกิดจากชู้ บารมีกลับเลือกพัชรา เพราะบารมีไม่อยากให้พริมเดือดร้อน แต่พริมไม่เข้าใจความรักที่เคยมีต่อพ่อสลายหายไป พริมกลายเป็นคนเกลียดพ่อไม่อยากแม้จะได้ยินชื่อของเขา พริมนำแฟ้มพรีเซนต์รองเท้าของตัวเองโยนทิ้งและหยุดความฝันทั้งหมดไว้ให้ตายไปกับศรัทธาในตัวพ่อที่หมดไป
 
ภูรีสงสารพริมจับใจจึงพยายามจะเข้าไปให้กำลังใจพริม ไม่อยากให้พริมล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจ แต่ยิ่งพริมกับภูรีใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ วิกกี้ก็ยิ่งเสียใจและอาการก็แย่ลงมากขึ้น พัชราก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตพริมจนถึงขั้นขู่จะฆ่าและคิดจะกำจัดพริมที่เป็นมารหัวใจของวิกกี้เหมือนกับที่ตนเคยกำจัดพาพรมารหัวใจออกไปจากชีวิตของบารมีได้สำเร็จ แม้บารมีจะไม่เคยมีหัวใจรักเธอเลย แต่เธอก็ยังได้ครอบครองบารมีเอาไว้อย่างผู้ชนะ 
 
ชีวิตของพริมกำลังตกอยู่ในอันตราย แถมความฝันเรื่องรองเท้าก็ยังมืดมน ความรักก็ยังสับสนยุ่งเหยิง ชีวิตของนางซินคนนี้จะจบอย่างไร ทั้งเรื่องหัวใจและความฝันจะพาเธอเดินไป ถึงจุดหมายที่หวังไว้ได้หรือไม่ ต้องติดตามชมละคร "เสน่ห์รักนางซิน" ทางช่อง 3