เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า แองจี้ บาร์โลว์ หญิงวัย 48 ปี จากอังกฤษ เกิดอาการกลัวทันตแพทย์อย่างหนักจนไม่อยากจะไปพบ ไม่ว่าฟันจะมีปัญหาแค่ไหน เธอตัดสินใจใช้กาวช้างเป็นยาดี ฟันหักฟันหลุดเมื่อไหร่ ก็เอากาวช้างสมานกลับเข้าไปเหมือนเดิม รายงานระบุว่า แองจี้ไม่เคยไปหาหมอฟันเลยตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งในลำคอ แองจี้บอกว่า เธอกลัวหมอฟันมาก เพราะตอนนั้นแม่ของเธอไปถอนฟันแล้วก็ต้องเจอข่าวร้ายเมื่อพบว่าเป็นมะเร็ง มันเลยทำให้เธอหลอน กลัวว่าจะเป็นแบบนั้นบ้าง
ในขณะเดียวกัน สภาพฟันของแองจี้กลับไม่ได้สุขภาพดีเหมือนกับใครหลายๆ คน เพราะเธอสูบบุหรี่เป็นประจำ และมีปัญหาฟันสึกฟันแตก แต่ในทุกครั้งที่ฟันของเธอหลุดหรือแตกออกมา เธอก็จะใช้กาวช้างทาให้มันกลับไปอยู่ที่เดิมเสมอ โดยจะใช้อุปกรณ์ช่วยอ้าปากง้างปากเอาไว้ตอนที่ใช้กาวช้างสมานฟัน รอให้มันแห้งเสียก่อนค่อยเอาอุปกรณ์ออก จากนั้นฟันเธอก็จะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอแฮปปี้นัก เธอยอมรับว่าเวลาเธอคุยกับใครแล้วเห็นฟัน เธออายไม่น้อยเหมือนกัน
ในที่สุดเมื่อฟันของเธอสึกหรอเรื่อยๆ และมันก็มาถึงจุดที่แย่ที่สุดเกินกว่าที่จะเยียวยาด้วยกาวช้าง บวกกับอายที่ต้องพูดคุยกับผู้คนในสภาพฟันแบบนี้ แองจี้ก็เลยยอมไปพบทันตแพทย์แต่โดยดี และเมื่อตรวจสอบช่องปากของเธอ ทันตแพทย์ก็ถึงขั้นบอกว่านี่เป็นหนึ่งในเคสที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยพบมาตลอดอาชีพทันตแพทย์ มันไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะมีคนเอากาวช้างไปติดฟันตัวเองแบบนี้ และเมื่อแองจี้ปล่อยให้ฟันเสียหายมาอย่างยาวนานจนเกินเยียวยา ทันตแพทย์จึงต้องถอนฟันเธอออก 11 ซี่ และต้องใส่ฟันปลอมเข้าไป 12 ซี่ และในที่สุดแล้วแองจี้ก็กลับมามีฟันสวยเป็นระเบียบ ซึ่งงานนี้เธอถึงกับบอกเลยว่า หลังจากที่ได้ทำฟัน เธอก็มั่นใจมากขึ้น พร้อมจะออกสังคมได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย.
ที่มา - kapook